พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระพิจิตรเขี้ยว...
พระพิจิตรเขี้ยวงู กรุท่าฉนวน จ.พิจิตร
พระพิจิตรเขี้ยวงู กรุท่าฉนวน จ.พิจิตร
องค์นี้เป็นพิมพ์เขี้ยวงู ซึ่งหายากกว่าและนิยมกว่าพิมพ์เม็ดน้อยหน่า สภาพพอสวย ดูง่ายเดิม ๆ เนื้อดินละเอียดสีดำแห้งแกร่งมาก ๆ ครับ
จังหวัดพิจิตร ได้ชื่อเป็นเมืองของนักรบในสมัยโบราณ ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยตลอดมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองพิจิตรจัดเป็นเมืองหน้าด่านมาโดยตลอด ดังนั้นพระเครื่องเมืองพิจิตร โดยส่วนใหญ่จึงมักจะมีพุทธคุณเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี พระเครื่องเมืองพิจิตรมีเอกลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกันมากก็คือพระเครื่องขนาดเล็กจิ๋ว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าพระเครื่องของเมืองอื่นๆ แต่ถึงจะมีขนาดเล็กก็เล็กพริกขี้หนู เข้มขลังในด้านพุทธคุณ ในสมัยก่อนนั้น จัดเป็นพระเครื่องยอดนิยมของสังคมผู้นิยมพระเครื่องเลยทีเดียวครับ
พระเครื่องเมืองพิจิตร โดยส่วนใหญ่เราก็มักจะนึกถึงพระซึ่งมีขนาดเล็กๆ เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระนาคปรกใบมะขาม พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า พระพิจิตรเขี้ยวงู เป็นต้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วพระเครื่องเมืองพิจิตรก็มีพระเครื่องที่มีขนาดใหญ่อยู่หลายอย่างด้วยกัน เช่น พระพิจิตรวัดนาคกลาง พระนาคปรกพิจิตรกรุมะละกอ พระพิจิตรหัวดง และพระพิจิตรใบตำแย เป็นต้น พระเครื่องเมืองพิจิตรทุกพิมพ์ล้วนแล้วแต่เป็นพระที่หาพระแท้ๆ ยากแทบทั้งสิ้น เนื่องจากมีการทำปลอมเลียนแบบมาช้านาน จากความนิยมกันมาตั้งแต่ในอดีต
กรุที่พบพระเมืองพิจิตรนี้ ก็พบด้วยกันหลายกรุ เช่น
กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
กรุวัดนาคกลาง
กรุท่าฉนวน
กรุวัดเขมาภิรตาราม
กรุมะละกอ กรุวัดช้าง
กรุวัดท่าสะท้อน
กรุวัดโพธิ์ประทับช้าง ฯลฯ
พระเครื่องเมืองพิจิตรมีอายุการสร้างตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระพิจิตร ที่ทำให้พระกรุเมืองพิจิตรมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ก็คือ พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และ พระพิจิตรเขี้ยวงู ในสมัยรุ่นคุณทวด คุณปู่ คุณย่านั้น การเลี่ยมพระห้อยคอ ยังไม่ค่อยมีการเลี่ยมแพร่หลายนัก อย่างดีก็ถักลวดหรือถักเชือกห้อยคอ หรือไม่ก็ห่อผ้ามัดห้อยไว้ แต่ถ้าพระมีขนาดเล็กเช่นพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่านี้ ในสมัยนั้นนิยมอมใส่ปากกันเลย เนื่องด้วยมีขนาดเล็ก รูปทรงมนๆ และเป็นพระเนื้อดิน อมไว้ในปากก็เหมือนกับอมลูกอมประมาณนั้นครับ เวลาจะเดินทางไปไหน ก็มักจะนำพระมาอาราธนาอมใส่ปากไว้ เพื่อคุ้มครอง ป้องกันภัย การเดินทางค้าขายระหว่างจังหวัด ในสมัยนั้นมีอันตรายอยู่มาก จากสัตว์ร้ายนานา งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อีกทั้งโจรปล้นก็มีมากมาย
ด้วยเหตุนี้เอง พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่าจึงมีประสบการณ์ทางด้านแคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพันชาตรีอยู่เนืองๆ จนร่ำลือกันไปทั่ว ต่างก็เสาะหาพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพิจิตรเขี้ยวงูกันมาก บ้างก็เล่าลือกันว่า ขนาดปูนกินหมากยังไม่กัดปากเลย ถ้าอมพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า พระบางองค์ที่พบจึงปรากฏคราบน้ำหมากจับอยู่ที่ผิวพระ
พระเม็ดน้อยหน่านี้ มีพบที่จังหวัดอื่นๆอีกด้วย เช่น เมืองกำแพงเพชร เนื้อพระมักจะเป็นเนื้อดินสีออกแดง ของเมืองสุโขทัย เนื้อจะหยาบกว่าเมืองพิจิตร เมืองกำแพงเพชร ที่อยุธยาก็ยังพบบ้าง แต่ศิลปะและเนื้อหาจะดูอ่อนกว่า (อายุการสร้าง) สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในยุคหลังกว่าทั้งสามเมืองข้างต้น พระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงูนั้น พบเฉพาะที่เมืองพิจิตรเท่านั้น
พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพระพิจิตรเขี้ยวงู พระทั้งสองอย่างนี้มีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกันมาก เนื้อหาจะเป็นพระเนื้อดินเผาแบบเดียวกัน และก็พบในกรุเดียวกันคือกรุท่าฉนวน ด้วยลักษณะกลมๆ รีๆ ของพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า ละม้ายคล้ายคลึงกับเม็ดน้อยหน่านี่เอง จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกกันครับ แต่พระพิจิตรเขี้ยวงูจะมีองค์พระที่เรียวผอมกว่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า ส่วนกรอบนอกก็จะคล้ายๆกัน ต้องสังเกตที่องค์พระเป็นหลัก ตัวองค์พระนั้นจะมีลักษณะเรียวๆ แหลมๆ จึงแยกเรียกชื่อกัน โดยนำเอาพุทธลักษณะเรียวแหลมมาตั้งชื่อเป็นพระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงู
พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่าและพระพิจิตรเขี้ยวงู จะมีเนื้อที่ละเอียด โดยส่วนมากจะมีสีออกดำๆ เป็นหลัก แต่ที่เป็นเนื้อสีอื่นๆ ก็มี เช่นสีออกแดงอมส้ม หรืออมเหลือง แต่ก็มีเป็นส่วนน้อย กรุที่พบจะมีกรุท่าฉนวน และกรุมะละกอ
สรุปพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงู ก็พบที่กรุเดียวกัน แต่เป็นคนละแม่พิมพ์กันเท่านั้นครับ ขนาดก็ไล่เลี่ยกัน แต่พระพิจิตรเขี้ยวงูจะดูผอมเรียวๆ กว่า และพบน้อยกว่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า อีกอย่างหนึ่งก็คือ พระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงูนั้นพบเฉพาะที่เมืองพิจิตรเท่านั้น ค่านิยมก็จะสูงกว่าพิมพ์เม็ดน้อยหน่า
พระพิจิตรเขี้ยวงูนั้น เท่าที่พบมีจำนวนน้อยกว่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่ามากทีเดียวครับ แทบจะกลายเป็นตำนาน ซึ่งหาพบยากจริงๆ ครับ จึงเป็นที่นิยมเสาะหามากกว่า และตามความเชื่อกันว่า พระพิจิตรเขี้ยวงูนั้นนอกจากจะมีพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพันชาตรีแล้ว ยังป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอได้อีกด้วยครับ
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
ชมรมพระเครื่อง
โดย แทน ท่าพระจันทร์
หนังสือพิมพ์ ข่าวสดรายวัน
วันที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8107 และวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557
ผู้เข้าชม
13046 ครั้ง
ราคา
โทรถาม
สถานะ
บูชาแล้ว
ชื่อร้าน
อู๊ด ท่าตลาด
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0945961617
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 343-2-48879-8

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Paphon07ภูมิ IRep8600fuchoo18หริด์ เก้าแสนErawan
ปราสาทมรกตตรี ปากจั่นsomemanBAINGERNอ้วนโนนสูงNongBoss
โกหมูแมวดำ99Aofdantaijochoaofkolokpoop2015
จิ๊บพุทธะมงคลtermboontangmodigitalplusArt.thanathonว.ศิลป์สยาม
Le29Amuletgofubonยุ้ย พลานุภาพkaew กจ.Putanarintonponsrithong2

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1358 คน

เพิ่มข้อมูล

พระพิจิตรเขี้ยวงู กรุท่าฉนวน จ.พิจิตร




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระพิจิตรเขี้ยวงู กรุท่าฉนวน จ.พิจิตร
รายละเอียด
พระพิจิตรเขี้ยวงู กรุท่าฉนวน จ.พิจิตร
องค์นี้เป็นพิมพ์เขี้ยวงู ซึ่งหายากกว่าและนิยมกว่าพิมพ์เม็ดน้อยหน่า สภาพพอสวย ดูง่ายเดิม ๆ เนื้อดินละเอียดสีดำแห้งแกร่งมาก ๆ ครับ
จังหวัดพิจิตร ได้ชื่อเป็นเมืองของนักรบในสมัยโบราณ ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยตลอดมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองพิจิตรจัดเป็นเมืองหน้าด่านมาโดยตลอด ดังนั้นพระเครื่องเมืองพิจิตร โดยส่วนใหญ่จึงมักจะมีพุทธคุณเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี พระเครื่องเมืองพิจิตรมีเอกลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกันมากก็คือพระเครื่องขนาดเล็กจิ๋ว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าพระเครื่องของเมืองอื่นๆ แต่ถึงจะมีขนาดเล็กก็เล็กพริกขี้หนู เข้มขลังในด้านพุทธคุณ ในสมัยก่อนนั้น จัดเป็นพระเครื่องยอดนิยมของสังคมผู้นิยมพระเครื่องเลยทีเดียวครับ
พระเครื่องเมืองพิจิตร โดยส่วนใหญ่เราก็มักจะนึกถึงพระซึ่งมีขนาดเล็กๆ เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระนาคปรกใบมะขาม พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า พระพิจิตรเขี้ยวงู เป็นต้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วพระเครื่องเมืองพิจิตรก็มีพระเครื่องที่มีขนาดใหญ่อยู่หลายอย่างด้วยกัน เช่น พระพิจิตรวัดนาคกลาง พระนาคปรกพิจิตรกรุมะละกอ พระพิจิตรหัวดง และพระพิจิตรใบตำแย เป็นต้น พระเครื่องเมืองพิจิตรทุกพิมพ์ล้วนแล้วแต่เป็นพระที่หาพระแท้ๆ ยากแทบทั้งสิ้น เนื่องจากมีการทำปลอมเลียนแบบมาช้านาน จากความนิยมกันมาตั้งแต่ในอดีต
กรุที่พบพระเมืองพิจิตรนี้ ก็พบด้วยกันหลายกรุ เช่น
กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
กรุวัดนาคกลาง
กรุท่าฉนวน
กรุวัดเขมาภิรตาราม
กรุมะละกอ กรุวัดช้าง
กรุวัดท่าสะท้อน
กรุวัดโพธิ์ประทับช้าง ฯลฯ
พระเครื่องเมืองพิจิตรมีอายุการสร้างตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระพิจิตร ที่ทำให้พระกรุเมืองพิจิตรมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ก็คือ พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และ พระพิจิตรเขี้ยวงู ในสมัยรุ่นคุณทวด คุณปู่ คุณย่านั้น การเลี่ยมพระห้อยคอ ยังไม่ค่อยมีการเลี่ยมแพร่หลายนัก อย่างดีก็ถักลวดหรือถักเชือกห้อยคอ หรือไม่ก็ห่อผ้ามัดห้อยไว้ แต่ถ้าพระมีขนาดเล็กเช่นพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่านี้ ในสมัยนั้นนิยมอมใส่ปากกันเลย เนื่องด้วยมีขนาดเล็ก รูปทรงมนๆ และเป็นพระเนื้อดิน อมไว้ในปากก็เหมือนกับอมลูกอมประมาณนั้นครับ เวลาจะเดินทางไปไหน ก็มักจะนำพระมาอาราธนาอมใส่ปากไว้ เพื่อคุ้มครอง ป้องกันภัย การเดินทางค้าขายระหว่างจังหวัด ในสมัยนั้นมีอันตรายอยู่มาก จากสัตว์ร้ายนานา งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อีกทั้งโจรปล้นก็มีมากมาย
ด้วยเหตุนี้เอง พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่าจึงมีประสบการณ์ทางด้านแคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพันชาตรีอยู่เนืองๆ จนร่ำลือกันไปทั่ว ต่างก็เสาะหาพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพิจิตรเขี้ยวงูกันมาก บ้างก็เล่าลือกันว่า ขนาดปูนกินหมากยังไม่กัดปากเลย ถ้าอมพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า พระบางองค์ที่พบจึงปรากฏคราบน้ำหมากจับอยู่ที่ผิวพระ
พระเม็ดน้อยหน่านี้ มีพบที่จังหวัดอื่นๆอีกด้วย เช่น เมืองกำแพงเพชร เนื้อพระมักจะเป็นเนื้อดินสีออกแดง ของเมืองสุโขทัย เนื้อจะหยาบกว่าเมืองพิจิตร เมืองกำแพงเพชร ที่อยุธยาก็ยังพบบ้าง แต่ศิลปะและเนื้อหาจะดูอ่อนกว่า (อายุการสร้าง) สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในยุคหลังกว่าทั้งสามเมืองข้างต้น พระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงูนั้น พบเฉพาะที่เมืองพิจิตรเท่านั้น
พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพระพิจิตรเขี้ยวงู พระทั้งสองอย่างนี้มีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกันมาก เนื้อหาจะเป็นพระเนื้อดินเผาแบบเดียวกัน และก็พบในกรุเดียวกันคือกรุท่าฉนวน ด้วยลักษณะกลมๆ รีๆ ของพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า ละม้ายคล้ายคลึงกับเม็ดน้อยหน่านี่เอง จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกกันครับ แต่พระพิจิตรเขี้ยวงูจะมีองค์พระที่เรียวผอมกว่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า ส่วนกรอบนอกก็จะคล้ายๆกัน ต้องสังเกตที่องค์พระเป็นหลัก ตัวองค์พระนั้นจะมีลักษณะเรียวๆ แหลมๆ จึงแยกเรียกชื่อกัน โดยนำเอาพุทธลักษณะเรียวแหลมมาตั้งชื่อเป็นพระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงู
พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่าและพระพิจิตรเขี้ยวงู จะมีเนื้อที่ละเอียด โดยส่วนมากจะมีสีออกดำๆ เป็นหลัก แต่ที่เป็นเนื้อสีอื่นๆ ก็มี เช่นสีออกแดงอมส้ม หรืออมเหลือง แต่ก็มีเป็นส่วนน้อย กรุที่พบจะมีกรุท่าฉนวน และกรุมะละกอ
สรุปพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า และพระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงู ก็พบที่กรุเดียวกัน แต่เป็นคนละแม่พิมพ์กันเท่านั้นครับ ขนาดก็ไล่เลี่ยกัน แต่พระพิจิตรเขี้ยวงูจะดูผอมเรียวๆ กว่า และพบน้อยกว่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า อีกอย่างหนึ่งก็คือ พระพิจิตรพิมพ์เขี้ยวงูนั้นพบเฉพาะที่เมืองพิจิตรเท่านั้น ค่านิยมก็จะสูงกว่าพิมพ์เม็ดน้อยหน่า
พระพิจิตรเขี้ยวงูนั้น เท่าที่พบมีจำนวนน้อยกว่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่ามากทีเดียวครับ แทบจะกลายเป็นตำนาน ซึ่งหาพบยากจริงๆ ครับ จึงเป็นที่นิยมเสาะหามากกว่า และตามความเชื่อกันว่า พระพิจิตรเขี้ยวงูนั้นนอกจากจะมีพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพันชาตรีแล้ว ยังป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอได้อีกด้วยครับ
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
ชมรมพระเครื่อง
โดย แทน ท่าพระจันทร์
หนังสือพิมพ์ ข่าวสดรายวัน
วันที่ 08 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8107 และวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557
ราคาปัจจุบัน
โทรถาม
จำนวนผู้เข้าชม
13192 ครั้ง
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
ชื่อร้าน
อู๊ด ท่าตลาด
URL
เบอร์โทรศัพท์
0815880011
ID LINE
0945961617
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
2. ธนาคารกสิกรไทย / 343-2-48879-8




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี